ปี 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความผันผวนและความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่สูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งภาคการลงทุนและภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตามในปี 2566 ยังถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีสำหรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (“กองทรัสต์ WHART”) ในหลากหลายมิติ ทั้งความสำเร็จในด้านการเพิ่มทุน การดำเนินงาน การบริหารจัดการทางด้านการเงิน และส่วนที่สำคัญที่สุดคือการจ่ายประโยชน์ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ในระดับที่ดีขึ้น

กองทรัสต์ WHART ประสบความสำเร็จในการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 9 (เพิ่มทุนครั้งที่ 8) ใน 3 โครงการ บน 2 ทำเลยุทธศาสตร์ ได้แก่ ทำเลบางนา-ตราด และทำเลจังหวัดชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยหน่วยทรัสต์ใหม่สำหรับการเพิ่มทุนที่ได้ออกนำเสนอขายแก่นักลงทุนได้รับการจองซื้อทั้งหมดในส่วนของพื้นที่เช่ารวมของ 3 โครงการที่กองทรัสต์เข้าลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้ อยู่ที่ 142,896.00 ตร.ม. และมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 3,566.49 บาท นอกจากนี้กองทรัสต์ยังได้ผู้เช่าที่มีคุณภาพจากอุตสาหกรรมที่มั่นคง และเติบโต เช่น Perfect Companian Group, Nippon Express, DB Schenker และ Hankyu Hanshin ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตผู้เช่าของกองทรัสต์ในระยะยาว

ภายหลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ กองทรัสต์ WHART ยังคงเป็นกองรีทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีมูค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 55,300.24 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารจัดการอยู่ที่ 1,886,703.83 ตร.ม. พอร์ตการลงทุนของกองทรัสต์ WHART มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านที่ตั้งของทรัพย์สิน สัญชาติของผู้เช่า กล่มธุรกิจของผู้เช่า และอื่นๆ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงให้แก่กองทรัสต์ และทำให้กองทรัสต์ WHART ผ่านเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายมาโดยตลอดและยังสามารถรักษาระดับการจ่ายผลตอบแทนในระดับที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้

ด้านการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 กองทรัสต์ WHART มีอัตราการเช่าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 88.00 (ไม่รวมสัญญาตกลงกระทำการ) ประกอบไปด้วยผู้เช่าหลักในภาคธุรกิจมีที่ความมั่นคง และเติบโต อาทิเช่น Third-Party Logistics (3PLs), Fast-Moving Consumer Goods, E-Commerce และ Home Appliances ในด้านอายุสัญญาเช่าคงเหลือเฉลี่ยถัวน้ำหนัก (WALE) ของกองทรัสต์อยู่ที่ 4.11 ปี ซึ่งถือเป็นอายุเฉลี่ยที่ยาวเมื่อเทียบกับกองรีทอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแหล่งรายได้ที่มั่นคงของกองทรัสต์

ในด้านการบริหารจัดการทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 กองทรัสต์มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจำนวน 15,385.00 ล้านบาท มีสัดส่วนหุ้นกู้และเงินกู้ยืมอยู่ที่ร้อยละ 72.80 และร้อยละ 27.20 ตามลำดับ โดยหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยส่วนใหญ่อยู่ในรูปของหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตลอดปี 2566 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของกองทรัสต์อย่างมีนัยยสำคัญ นอกจากนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อมูลค่าทรัพย์สินรวม (Loan to Value) ของกองทรัสต์ WHART ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยหลังจากการเพิ่มทุนครั้งที่ 8 เสร็จสิ้น กองทรัสต์ WHART มีอัตราส่วนหนี้สินต่อมูลค่าทรัพย์สินรวม (Loan to Value) อยู่ที่ร้อยละ 27.82

สำหรับประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ กองทรัสต์ WHART ได้ประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนในรูปของเงินปันผลในอัตราหน่วยละ 0.7735 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรอบปีที่แล้วประมาณร้อยละ 1.07 และในปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง ปีที่กองทรัสต์ WHART ได้จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ฯ ทางผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียลเอสเตท แมเนจเมนท์ จำกัด ขอขอบคุณผู้ถือหน่วยทรัสต์ทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา และผู้จัดการกองทรัสต์ฯ จะพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการกองทรัสต์ของเรา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ทุกท่าน

ขอแสดงความนับถือ

ผู้จัดการกองทรัสต์
บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียลเอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด